การลงโฆษณา Facebook อย่างไรให้ความสำเร็จนั้นประกอบด้วยหลายๆ ปัจจัยที่ทำให้โฆษณาได้ผล ราคาค่าโฆษณาเป็นหนึ่งในสิ่งที่หลายคนอาจคิดว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญที่จะวัดความสำเร็จได้ โดยเฉพาะการทำโฆษณาใน Facebook การ Optimize โฆษณาเพื่อเพื่อให้จ่ายค่าโฆษณาต่ำที่สุดย่อมเป็นสิ่งที่ผู้ลงโฆษณาทุกคนต้องการเป็นอย่างยิ่ง
ปัจจัยที่จะกำหนดความสำเร็จในการโฆษณาใน Facebook
การลงโฆษณาบน Facebook ให้ประสบความสำเร็จนั้นประกอบด้วยหลายๆ จะทำยังไงให้ลงโฆษณาเฟสบุ๊คแล้วประสบความสำเร็จและงบประมาณที่จะไม่บานปลาย มาดูปัจจัยที่วัดผลความสำเร็จกันดีกว่า
1. เลือกรูปแบบโฆษณาให้ถูก
หลายคนจบตั้งแต่เริ่มลงโฆษณาบน Facebook เพราะว่าเลือกรูปแบบโฆษณาผิด คุณลองดูว่าโฆษณาแบบไหนที่ได้ผลจริงๆ บน Facebook อย่างแรกที่ควรจะคำนึงก่อนการที่เลือกรูปแบบโฆษณาคือ เป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ที่เราตั้งไว้ เราตั้ง Goal ในการลงโฆษณานี้เพื่ออะไร เช่น เราต้องการให้เกิดการกดไลท์เพจเพิ่มขึ้นและเกิดEngagement บนเพจ แค่นี้ก็จำทำให้เราเห็นภาพชัดเจนมากขึ้นว่าเราควรจะเลือกรูปแบบโฆษณาอะไรบ้าง ต้องการคนกดไลท์เพจเพิ่มขึ้น โปรโมทแฟนเพจ ก็ลงโฆษณา Promote Page ต้องการ Engagement ก็ Boost Post แค่นี้เอง
2. เลือกกลุ่มเป้าหมายให้ตรงจุด
คนส่วนใหญ่เลยพลาดกันเรื่องการเลือกกลุ่มเป้าหมาย เราต้องกำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน การเลือกกลุ่มเป้าหมายของ Fan Page ก็ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กันเลย เพราะการเลือกกลุ่มเป้าหมายจะทำให้การโฆษณา Fan Page หรือสินค้าและบริการต่างๆ ใน Fan Page ของเรานั้นประสบผลสำเร็จและทำให้เราสามารถเสนอขายสินค้าให้ตรงต่อความต้องการและความสนใจของลูกค้าหรือผู้ที่ใช้บริการได้ การกำหนดกลุ่มเป้าหมายสามารถ กำหนดเป้าหมายตามตำแหน่งที่ตั้ง, ช่วงอายุ, เพศ, ความสนใจ ซึ่งการที่เราจะเลือกกลุ่มเป้าหมายยังไงให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเรามากที่สุดนั้นคือ การที่เรารู้จักกลุ่มเป้าหมายเรามากที่สุด การกำหนดกลุ่มเป้าหมายให้แคบและตรงมากที่สุดจะช่วยให้เราเข้ายังกลุ่มเป้าหมายมากกว่าหว่านไปกว้างๆ เพราะคิดว่ากำหนดคนเยอะๆ ก็คิดว่าอาจจะเข้าถึงได้มาก แต่จริงๆ แล้วเป็นความคิดที่ผิด เพราะในจำนวนคนเยอะๆ นอกจากจะไม่ทำให้เราสามารถเข้าถึงเป้าหมายที่แท้จริงของเราได้แล้ว ยังต้องเสียค่าโฆษณาที่แพงและไม่ได้ประโยชน์อีกด้วย
3. การเลือกภาพลงโฆษณา
รูปภาพที่มีข้อความบนรูปเกิน 20% ตามหลักแล้วรูปภาพที่จะลงโฆษณาไม่ควรมีข้อความบนรูปภาพเลยจะดีที่สุดเพราะจะช่วยให้ค่าโฆษณาราคาถูกลง และ Facebook จะอนุมัติการลงโฆษณาของเราได้เร็วขึ้น รูปภาพที่มีการซูมผิวหนังให้เห็นอย่างชัดเจน รูปภาพจำพวกนี้จะถือเป็นข้อห้ามในการลงโฆษณาของ Facebook เลยก็ว่าได้ เพราะทาง Facebook จะไม่อนุมัติรูปภาพโฆษณาจำพวกนี้เลย ไม่เป็นภาพอนาจาร รูปภาพที่มีการพาดพิงถึง Facebook ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพหรือข้อความที่เขียนบนภาพทุกอย่างห้ามมีการพาดพิงถึง Facebook เด็ดขาด! หากทาง Facebook ตรวจเจอจะไม่อนุมัติโฆษณาของเรา รวมไปถึงทำให้เครดิตเพจเราเสียไปด้วย
4. เวลาลงโฆษณา
ในการลงโฆษณา Boos Post นั้นถ้าหากเรากำหนดให้โฆษณารันทั้งหมด 3 วัน ก็ควรปล่อยให้โฆษณารันให้ครบหรือเสร็จก่อน ไม่ควรปิดโฆษณาก่อนที่จะรันเสร็จ เพราะจะส่งผลให้โฆษณาที่ลงใหม่ไม่มีประสิทธิภาพ รันไม่ดี และเข้าถึงลูกค้าได้น้อยอีกด้วย การเลือกเวลาในการลงโฆษณาก็สำคัญที่จะมีส่วนช่วยให้มีคนเห็นโฆษณาเรามากยิ่งขึ้น
5. ตำแหน่งของโฆษณา (Placement)
การเลือก Placement ที่จะแสดงโฆษณาก็ส่งผลต่อราคาที่เราจะต้องจ่ายเช่นเดียวกัน แน่นอนว่าตำแหน่งที่โฆษณาจะเกิด Engagement มากที่สุดมักจะเกิดขึ้นในตำแหน่ง News feed แต่หลายๆครั้งมันก็เป็นตำแหน่งที่มี Cost สูงที่สุดด้วยเช่นกัน เพราะมันเป็นเรื่องของ Demand and Supply ยิ่ง News feed มีความต้องการมาก ราคาที่จะต้องจ่ายก็ย่อมสูงขึ้นตามไปด้วย ตัวผมเองพบว่าหลายๆครั้งการเอาโฆษณาไปแสดงใน Right Column กับ Audience Network ช่วยลด CPM ให้ถูกลงได้มาก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องบาลานซ์ให้ดีด้วยระหว่างราคาที่ต้องจ่ายกับผลลัพธ์ที่ได้รับกลับมา
หากใครที่มีเพจแต่ยังไม่รู้ว่าจะลงโฆษณายังไง กำลังมองหาเอเจนซี่โฆษณา, รับโฆษณาเฟสบุ๊ค, โฆษณาแฟนเพจ, โปรโมทเพจ, ออกแบบเว็บไซต์ เราขอแนะนำ Marketing Bangkok ให้บริการทำการตลาดออนไลน์ครบวงจร มีทีมงานที่ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ทั้งทางด้านการออกแบบ การโปรแกรมมิ่งและการตลาด มีความมุ่งมั่น ทุ่มเทโดยมีเป้าหมายคือ ความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้าในทุกบริการของเรา สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจของลูกค้ารวมถึงสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนสูงสุดให้กับลูกค้าอีกด้วย